“ ด้วยเชื่อมั่นว่าโรคหัวใจและหลอดเลือดสามารถป้องกันได้ ”

ออกกำลังกายในน้ำ เพิ่มความสดชื่น

ออกกำลังกายในน้ำ เพิ่มความสดชื่น

        กิจกรรมทางกายที่เหมาะกับอากาศร้อนๆ อย่างประเทศไทยอีกอย่างก็คือ การออกกำลังกายในน้ำ นอกเหนือจากการว่ายน้ำที่ได้รับความนิยมมากก็ยังมีการเดิน วิ่ง ปั่น เต้นในน้ำด้วย แต่ยังไม่ค่อยแพร่หลายมากนัก เนื่องจากการหาสระว่ายน้ำที่เหมาะสม สะดวกสบาย ยังเป็นปัญหาที่ไม่สามารถเข้าถึงทุกคนได้

 

          การออกกำลังกายในน้ำ นอกจากจะมีผลดีต่อสุขภาพแล้ว ยังมีผลดีต่อสุขภาพจิตด้วย และยังเหมาะสำหรับผู้ที่ไม่สามารถออกกำลังกายบนบก เช่น ผู้ที่มีข้อเข่าเสื่อม น้ำหนักตัวมาก เป็นต้น ผู้ที่มีข้ออักเสบมักจะมีปัญหาเมื่อเวลาออกกำลังกาย เนื่องจากข้อจะได้รับแรงกระแทกจากการออกกำลัง ทำให้เกิดการอักเสบและอาการปวดของข้อ การออกกำลังกายในน้ำ จะช่วยลดปัญหาปวดข้อลงได้ โดยการออกกำลังกายในน้ำ ทำให้ร่างกายแข็งแรง กล้ามเนื้อแข็งแรงมากขึ้น และมีความอดทนเพิ่มขึ้น ทำให้ข้อมีการเคลื่อนไหวดีขึ้น การทรงตัวดีขึ้น ระบบไหลเวียนโลหิตดีขึ้นมีการสูบฉีดให้อวัยวะต่างๆ และหัวใจทำงานได้เป็นปกติ และเนื่องจากการออกกำลังกายในน้ำ จะใช้หลักการแรงน้ำพยุงตัว ทำให้ไม่ต้องออกแรงมาก จึงเหมาะที่จะใช้ในการฟื้นฟูสภาพร่างกายหลังได้รับอุบัติเหตุ ใช้เป็นส่วนหนึ่งในการลดน้ำหนักได้อีกด้วย นอกจากนี้ การออกกำลังกายในน้ำจะทำให้ร่างกายได้ปรับอุณหภูมิให้เย็นลง รู้สึกสดชื่น คลายร้อน และช่วยบรรเทาลดอาการความเครียดได้

 

วิธีการออกกำลังกายในน้ำมีอะไรบ้าง

  1. การเดินหรือการวิ่งในน้ำ น้ำในระดับเอวหรือระดับหน้าอกจะช่วยพยุงน้ำหนักของร่างกายที่กดลงบนเข่า เมื่อออกกำลังจะทำให้มีอาการปวดเข่า หรือข้ออักเสบน้อยกว่าการวิ่งบนบก นอกจากนั้นแรงต้านของน้ำจะทำให้กล้ามเนื้อแข็งแรง และใช้พลังงานมากว่าการเดินบนบก
  2. การเต้นแอโรบิคในน้ำ  (Water aerobics) เพียงครั้งละ 20  นาที ก็สามารถทำให้หัวใจแข็งแรง
  3. การเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ (Water toning / strengthening training)  โดยการเคลื่อนไหวร่างกายต้านกระแสน้ำ หรืออุปกรณ์เพื่อเพิ่มกำลังของกล้ามเนื้อ และทำให้กล้ามเนื้อแข็งแรงขึ้น
  4. การฝึกการเคลื่อนไหวของข้อ (Flexibility training) เพื่อให้ได้มีการเคลื่อนไหวได้อย่างเต็มที่
  5. ธาราบำบัด (Water therapy and rehabilitation) ใช้ในการบำบัดทางการแพทย์ เช่น การฝึกเดิน การลดอาการปวด
  6. การทำโยคะในน้ำ (water yoga and relaxation) เป็นการฝึกโยคะในน้ำ เพื่อการผ่อนคลายกล้ามเนื้อ และประคองการทรงตัว
  7. การออกกำลังในน้ำลึก (Deep-water exercise)  เป็นการออกกำลังในน้ำลึก โดยที่เท้าไม่สัมผัสพื้น โดยใช้อุปกรณ์ช่วยลอยตัว
  8. การวิ่งในน้ำลึก (Deep-water jogging/running)  เหมือนกับการวิ่งบนบก แต่เท้าไม่สัมผัสพื้นโดยใช้อุปกรณ์ลอยตัว
  9. การออกกำลังโดยใช้กำแพง  (Wall exercises)
  10. การว่ายน้ำทั่วไป (Swimming) ท่าฟรีสไตล์ ท่ากบ ท่ากรรเชียง และท่าผีเสื้อ

อย่างไรก็ตาม การเลือประเภทของออกกำลังกายในน้ำ อาจต้องปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านการออกกำลังกาย เพื่อเลือกวิธีที่เหมาะสมและปลอดภัยต่อผู้เล่น รวมไปถึงความหนักและระยะเวลาที่อาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล

 

เอกสารอ้างอิง

ปัทมาวดี สิงหจารุ (2559) การออกกำลังกายสำหรับผู้สูงอายุ, โอเดียนสโตร์:กรุงเทพฯ

 

 

 

 2176
ผู้เข้าชม
สร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปฟรี ร้านค้าออนไลน์