“ ด้วยเชื่อมั่นว่าโรคหัวใจและหลอดเลือดสามารถป้องกันได้ ”

โยคะแบบไหนดี ดีอย่างไร

โยคะแบบไหนดี ดีอย่างไร

 

ทุกวันนี้ได้ยิน ได้เห็นคนเล่นโยคะกันทั่วบ้านทั่วเมือง โยคะเองก็มีอยู่หลายแบบ ทั้งโยคะปกติฝึกทาอาสนะในอุณหภูมิห้องเปิดแอร์เย็นสบาย เน้นการฝึกยืดเหยียด ฝึกสมาธิ ประเภทโยคะร้อนที่มีจุดเด่นเรื่องการปรับอุณหภูมิในห้องฝึกให้สูงถึง 37-40 องศาเซลเซียส เพื่อให้ร่างกายเผาผลาญได้มากขึ้น ขับเหงื่อออกได้มากขึ้นเกือบเท่าตัว โยคะฟลายที่เน้นลีลาท่าทางการฝึกบนผ้าที่ให้โหนตัว ปีนผ้าขึ้นไปที่สูง ซึ่งถือว่าเป็นโยคะเน้นการสร้างความแข็งแรง กระชับสัดส่วนเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตาม แท้จริงแล้วทุกประเภทก็มีต้นกำเนิดมาจากศาสตร์แห่งโยคะนั่นเอง  โยคะ คือ การรวมกาย จิต และวิญญาณให้เป็นหนึ่งเดียว ดังนั้นการฝึกโยคะเป็นกระบวนการสําหรับฝึกกาย ฝึกการหายใจ และฝึกจิตให้มีความจดจ่อกับเรื่องลมหายใจเข้าออก

 

6 ข้อดีของโยคะ ได้แก่

  1. สามารถบริหารกายได้ทุกเพศ ทุกวัย เพราะเป็นการบริหารกายที่ไม่เน้นการใช้แรง จะเห็นได้ว่าแม้ในหญิงตั้งครรภ์ เด็กเล็กๆ ก็สามารถเล่นโยคะได้ แต่ต้องอาศัยการดูแลจากครูสอนผู้เชี่ยวชาญ
  2. ช่วยให้ร่างกายได้รับการเหยียดยืด ช่วยให้กล้ามเนื้อ และเอ็นมีความยืดหยุ่นดีขึ้น ใครที่ปวดข้อปวดเมื่อยเป็นประจำลองมาเล่นโยคะ แล้วจะเห็นผลดีทันตา โดยเฉพาะอย่างยิ่งพนักงานออฟฟิศที่มีความเสี่ยงต่อภาวะปวดเมื่อจากออฟฟิศซินโดรม
  3. ช่วยทำให้เลือดหมุนเวียนได้ดี กระตุ้นชีพจร การเต้นของหัวใจ หลอดเลือดถูกบีบและคลายเป็นจังหวะ ให้เลือดได้สูบฉีดไปเลี้ยงอวัยวะต่างๆ ของร่างกายให้ดีขึ้น ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ เช่น ระบบต่อมไร้ท่อ ระบบย่อยอาหาร ระบบขับถ่าย และระบบสืบพันธุ์
  4. ช่วยให้ระบบทางเดินหายใจทำงานได้ดีขึ้น เนื่องจากมีการฝึกการหายใจเข้า ออกที่ถูกต้องและเป็นระบบ ทำให้กล้ามเนื้อซี่โครง กระบังลม ปอดทำงานได้ดีขึ้น บางครั้งพบว่าช่วยบรรเทาอาการหอบหืดได้ด้วย
  5. สามารถบริหารและจัดการทักษะทางอารมณ์และจิตใจได้ เนื่องจากการปฏิบัติโยคะทำ ให้รู้สึกผ่อนคลาย มีสมาธิ มีสติสัมปชัญญะ ไม่หงุดหงิดง่าย และเมื่อไม่เครียด จิตใจผ่องใส ก็จะลดโอกาสเกิดโรคต่างๆทางกายและใจตามมา
  6. เป็นการออกกำลังกายที่ไม่ต้องลงทุน สามารถทำโยคะได้เกือบทุกสถานที่ เนื่องจากใช้พื้นที่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น และไม่ต้องการอุปกรณ์ราคาแพงใดๆ ขอมีแค่เสื่อหรือผ้าหนาๆปูรองพื้นที่ใช้บริหารก็พอ

 

สำหรับคนที่ยังไม่เคยหัดเล่นโยคะเลย สามารถเรียนได้จากครูฝึกสอนผู้เชี่ยวชาญตามโรงเรียนสอนโยคะ ฟิตเนสเซ็นเตอร์ หรือคลิปวิดีโอแนะนำการฝึกจากอินเตอร์เน็ตเพื่อการเริ่มต้นที่ดีนะคะ

 

ข้อควรระวังคือการฝึกนั้น   เนื่องจากโยคะมีท่าต่างๆมากมีประโยชน์เฉพาะท่า  ควรเลือกท่าที่ทำแล้วสบาย   บางท่าอาจทำแล้วไม่สบายไม่เหมาะสำหรับสภาพร่างกายบางคน

 

 

เอกสารอ้างอิง

อดิศักดิ์ สุมาล, บทความออนไลน์เรื่องโยคะกับสุขภาพ เข้าถึงได้จากhttp://www.stou.ac.th/Schools/Shs/booklet/book574/Thai574.pdf

 2049
ผู้เข้าชม
สร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปฟรี ร้านค้าออนไลน์